เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน

เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน ตามฟันด์โฟลว์ไหลออก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยเงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง ผ่านแนวที่ระดับ 34.73 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนกลับมาปิดตลาด 34.70 บาทต่อดอลลาร์ ตามทิศทางฟันด์โฟลว์ไหลเข้า

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือนที่ระดับ 34.73 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 34.70 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.59 บาทต่อดอลลาร์

ข่าวการเงินวันนี้

โดยเงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) ซึ่งในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,899.85 ล้านบาท และมีสถานะเป็น net outflows จากตลาดพันธบัตร 6,755 ล้านบาท ขณะที่เงินดอลลาร์ประคองทิศทางแข็งค่าจากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่อาจลากยาวออกไป

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ คาดไว้ที่ 34.50-34.80 บาทต่อดอลลาร์ โดยตลาดรอติดตามทิศทางฟันด์โฟลว์และการเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชีย รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ยอดขายบ้านใหม่ อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลเดือนมกราคมและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์

แนะนำข่าวการเงิน อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : PayPal Holdings Inc กำไรและรายได้สูงกว่าคาดใน Q4

PayPal Holdings Inc กำไรและรายได้สูงกว่าคาดใน Q4

PayPal Holdings Inc กำไรและรายได้สูงกว่าคาดใน Q4

บริษัท PayPal Holdings Inc (NASDAQ: PYPL) รายงานผลกำไรประจำไตรมาสที่ 4 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีรายได้สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี กำไรต่อหุ้น (EPS) ของ PayPal Holdings Inc อยู่ที่ $1.24 จากรายได้ $7.4B ทั้งนี้ ความเห็นของนักวิเคราะห์ที่รวบรวมโดย Investing.com ก่อนหน้านี้ มองว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะอยู่ที่ $1.20 ต่อหุ้น บนพื้นฐานรายได้ $7.39B

หุ้นของ PayPal Holdings Inc บวก 7.04% มาอยู่ที่ $83.94 ในหลังชั่วโมงทำการ หลังจากข่าวรายงานผลประกอบการ

การเงิน

นอกจาก PayPal Holdings Inc ยังมีบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีของตลาดหุ้นแนสแด็ก ที่รายงานผลประกอบการในช่วงเดือนนี้

ก่อนหน้านี้ Apple ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 โดยมีกำไรอยู่ที่ $1.88 ต่อหุ้น จากรายได้ $117.2B เทียบกับคาดการณ์ที่ $1.94 และรายได้ $121.88B

ขณะที่ผลการดำเนินงานของ Microsoft จากรายงานล่าสุดนั้นสูงกว่าการพยากรณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีผลกำไรประจำไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ $2.32 ต่อหุ้น และมีรายรับ $52.7B เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์โดยนักวิเคราะห์ของ Investing.com ซึ่งมองว่าตัวเลขกำไรต่อหุ้นน่าจะอยู่ที่ราว $2.3 บนพื้นฐานรายรับ $53.12B

ติดตามข่าวสารต่างๆเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>> เครดิตบูโร ชี้หากแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อ อ้างติดเครดิตบูโร รับตรวจเครดิตฟรี!

เครดิตบูโร ชี้หากแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อ อ้างติดเครดิตบูโร รับตรวจเครดิตฟรี!

เครดิตบูโร แจง หากถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินสมาชิกเครดิตบูโรที่อ้างว่าเป็นเพราะเครดิตบูโร ตรวจเครดิตบูโรฟรี ได้ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรทุกแห่ง

ล่าสุด บริษัทเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) ออกมาเปิดเผยว่า กรณีผู้ขอสินเชื่อได้รับหนังสือแจ้งปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินหรือบริษัทที่เป็นสมาชิก เครดิตบูโร โดยมีสาเหตุจากข้อมูลในเครดิตบูโร

ผู้ขอสินเชื่อสามารถตรวจเครดิตบูโรได้ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรทุกแห่ง ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ในหนังสือแจ้งปฏิเสธสินเชื่อ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร เปิดเผยว่า “ขณะนี้อยู่ในช่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ทำให้ประชาชนประสบปัญหาภาระหนี้สิน และต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อฟื้นตัวได้ จึงมีจำนวนการยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของเครดิตบูโรมากเพิ่มขึ้น ซึ่งหากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกมีเหตุให้ต้องปฏิเสธการให้สินเชื่อ

การเงิน โดยมีการอ้างว่าเป็นเพราะเครดิตบูโรนั้น ตาม พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ.2545 ได้กำหนดการคุ้มครองให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าของข้อมูล (ตัวท่าน) ที่คุ้มครองดูแลประชาชน ดังนั้นเมื่อท่านถูกปฏิเสธ/ไม่ให้สินเชื่อ โดยมีการอ้างว่าเป็นเพราะ “เครดิตบูโร”

ดังนั้น เพียงนำหนังสือแจ้งปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินหรือบริษัทที่เป็นสมาชิกมาแสดงหลักฐาน พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของตนเอง สามารถตรวจเครดิตบูโรฟรี! ได้ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรทุกแห่ง ภายใน 30 วันนับจากวันที่ในหนังสือแจ้งปฏิเสธสินเชื่อ”

ทั้งนี้ การพิจารณาสินเชื่อเป็นดุลยพินิจของสถาบันการเงิน ซึ่งขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อ หรือนโยบายสินเชื่อของแต่ละสถาบันการเงินในขณะนั้น ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ข้อมูลเครดิตเป็นเพียงส่วนประกอบส่วนหนึ่งในการนำไปประกอบการพิจารณาสินเชื่อเท่านั้น นอกเหนือจากข้อมูลจากแหล่งอื่น ที่สถาบันการเงินใช้ประกอบการพิจารณา

เช่น รายได้ รายจ่าย อาชีพ ประวัติการออม อายุงาน หรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นต้น นอกจากนี้ หากปรากฏว่าสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทได้ปฏิเสธสินเชื่อแก่ลูกค้าโดยเหตุเพราะการตรวจสอบข้อมูลเครดิตจากบริษัท สถาบันการเงินแห่งนั้นจะต้องมีหนังสือปฏิเสธสินเชื่อให้แก่ลูกค้า พร้อมแจ้งที่อยู่ของบริษัทข้อมูลเครดิตที่เป็นสถาบันการเงินที่ใช้ตรวจสอบข้อมูล

และท่านสามารถนำหนังสือปฏิเสธสินเชื่อที่ได้จากสถาบันการเงินไปขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตนเองได้ที่บริษัทข้อมูลเครดิตโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ท่านสามารถนำหลักฐานมาแสดงเพื่อยื่นตรวจเครดิตบูโรได้

▫️วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 9.00-16.30 น. 1) ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส แกรนด์ พระรามเก้าชั้น 2 (โซนพลาซา) (อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พระราม 9 และอยู่ด้านหลังห้างเซ็นทรัล พระราม 9)

▫️วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 9.00-18.00 น. 2) เครดิตบูโรคาเฟ่ อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3 (โซนธนาคาร) (BTS สถานีอารีย์ ทางออก 1) 3) ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (ภายในสถานี) 4) Bureau Lab (บูโรแล็บ) ท่าเรือวังหลัง (บริเวณทางเข้า-ออก ท่าเรือ และใกล้ประตู 8 ของโรงพยาบาลศิริราช)

5) Bureau Lab (บูโรแล็บ) สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต (ภายในสถานี) 6) ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ห้างเจ-เวนิว (นวนคร) ชั้น 3 ติดประกันสังคม

นอกจากนี้ ท่านสามารถใช้บริการตรวจเครดิตบูโรแบบสรุป (ฟรี) ที่สะดวกสบาย รวดเร็วหลากหลาย ตามลิงก์แนบhttps://www.ncb.co.th/ncb-infographic/check-credit-4

สำหรับข้อมูลเครดิตแบบสรุป จะประกอบด้วยข้อมูลจำนวนบัญชีสินเชื่อ ที่จะแสดงจำนวนบัญชีทั้งหมด บัญชีที่เปิดอยู่บัญชีที่ปิดแล้ว วงเงินสินเชื่อรวม และยอดหนี้คงเหลือรวม รวมทั้งจะมีประเภทบัญชีสินเชื่อ ได้แก่ บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล บ้าน เช่าซื้อ อื่นๆ และยอดหนี้คงเหลือแต่ละประเภทบัญชีอีกด้วย ทั้งนี้ รายงานข้อมูลเครดิตแบบสรุป เป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับเจ้าของข้อมูล เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อ เพื่อตรวจสอบจำนวนบัญชีสินเชื่อ และยอดหนี้ที่ถูกจัดเก็บไว้ในเครดิตบูโรเท่านั้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงต่อบุคคลใดได้

กรณีที่ท่านตรวจข้อมูลเครดิตของตนเองผ่านช่องทางต่างๆ ที่เครดิตบูโรให้บริการนั้น จะตรวจเครดิตบูโรกี่ครั้งก็ไม่มีผลต่อการพิจารณาขอสินเชื่อของธนาคารหรือสถาบันการเงินแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นสิทธิพื้นฐานในการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเอง